การ
เลี้ยงแพะของคุณลุงจวนนั้นอย่างที่กล่าวมาว่าคุณลุงจวนได้มีโอกาสเข้าร่วม
ชมรมส่งเสริมและพัฒนาพันธุ์แพะ-แกะ อำเภอมวกเหล็กด้วย
จึงได้รับข้อมูลความรู้ต่างๆและเห็นประโยชน์ของการรวมกลุ่ม
พอเลี้ยงได้ประมาณ 10 สัปดาห์ทางสมาชิกที่นำแพะมาให้ลุงจวนเลี้ยงจะ
มาจับผลต่างของน้ำหนักจะเป็นกำไรกลับคืนมา
โดยราคาที่รับมาจากชมรมนั้นอยู่ที่กิโลกรัมละ 55 บาท น้ำหนักแพะ 15-20 กิโลกรัม
ขายคืนชมรมได้กิโลกรัมละ 60 บาท แต่ละตัวน้ำหนักจะเพิ่มขึ้น 15-16
กิโลกรัมในระยะเวลา 3 เดือนก็จะได้เป็นรายได้กลับคืนมานั้นเอง
แพะที่ลุงจวนเลี้ยงนั้นจะมาจากสมาชิกไม่ได้ลงทุนก่อน แล้วนำมาขุนจำนวน 3
เดือนจึงสามารถจำหน่ายออกได้ โดยลุงจวนจะทำคอกไว้ 3 ล๊อค ในการเลี้ยงนั้น 1
รุ่น ลุงจวนจะเลี้ยงประมาณ 20-30
ตัวไม่เกินจำนวนนี้เพราะโรงเรือนแต่ละล๊อคจะรับจำนวนแพะได้ไม่เกิน 30 ตัว
พอเลี้ยงไว้ที่ล๊อคที่ 1 ครบ 1 เดือนก็จะย้ายไปล๊อคที่สอง
และสามต่อไปจนครบสามเดือนก็สามารถนำแพะขุนนั้นไปขายได้
จะสังเกตุว่าแพะที่ลุงจวนเลี้ยงนั้นน้ำหนักจะเพิ่มเฉลี่ยตัวละ 15 กิโลกรัม
ส่วนต่างน้ำหนักตัวครั้งแรกกับส่วนต่างนี่แหละคือกำไรที่ลุงจวนจะได้เป็นราย
ได้นั้นเอง และสังเกตุว่าแพะทุกตัวของลุงจวนจะสมบูรณ์
จะมีแพะที่อยู่ล๊อคแรกนั้นจะผอมเพราะยังขุนไม่ได้ที่
โรงเรือนของลุงขวนนั้นจะไม่ยกพื้นหรือยกระดับเพราะประหยัดต้นทุนในการทำโรง
เรือนด้วย และใช้วัสดุที่หาได้ง่ายนั้นก็คือไม้ไผ่และไม้กะกินนี้เอง
ลุงจวนกล่าวว่า คอกแพะจะแบ่งแพะออกเป็น 3 ล๊อค 3 เกรด แพะของลุงจวนจะใช้เวลาเลี้ยงขุนเพียง 3 เดือนเท่านั้น
เกรดที่หนึ่ง นั้น จะเป็นคอกพักแพะที่นำมาใหม่ จะดูแลเรื่องสุขภาพร่างกายดูว่าแพะป่วยหรือไม่ ต้องทำการรักษาหรือไม่ ถ้าไม่มีปัญหา พอครบ 1 เดือนก็จะย้ายไปสู่เกรดที่สอง
เกรดที่สอง นั้นจะเป็นเกรดที่แพะเริ่มมีเนื้อมีหนัง เริ่มขุนได้ที่นั้นเอง สังเกตุว่าขนจะมันและดูสุขภาพดี พอครบ 1 เดือนก็สามารถย้ายไปเกรดที่สามได้
สำหรับเกรดที่สาม นั้นเป็นแพะขุนที่สามารถจำหน่ายได้แล้ว ลักษณะจะดูอ้วนได้น้ำหนักดี ขนของแพะขุนนั้นจะมันวาว หากช่างน้ำหนักดูจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในแต่ละรุ่นนั้นคุณลุงจวนจะมีกำไรกับการเลี้ยงแพะขุนอยู่ที่ 3-4 หมื่นบาท และยังมีรายได้ที่ได้จากการเผาถ่านไม้กระกินหลังจากที่นำกระถินมาให้แพะกิน แล้วก็จะเหลือเศษไม้นำไปเผาเป็นถ่านนั้นเอง
เกรดที่หนึ่ง นั้น จะเป็นคอกพักแพะที่นำมาใหม่ จะดูแลเรื่องสุขภาพร่างกายดูว่าแพะป่วยหรือไม่ ต้องทำการรักษาหรือไม่ ถ้าไม่มีปัญหา พอครบ 1 เดือนก็จะย้ายไปสู่เกรดที่สอง
เกรดที่สอง นั้นจะเป็นเกรดที่แพะเริ่มมีเนื้อมีหนัง เริ่มขุนได้ที่นั้นเอง สังเกตุว่าขนจะมันและดูสุขภาพดี พอครบ 1 เดือนก็สามารถย้ายไปเกรดที่สามได้
สำหรับเกรดที่สาม นั้นเป็นแพะขุนที่สามารถจำหน่ายได้แล้ว ลักษณะจะดูอ้วนได้น้ำหนักดี ขนของแพะขุนนั้นจะมันวาว หากช่างน้ำหนักดูจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในแต่ละรุ่นนั้นคุณลุงจวนจะมีกำไรกับการเลี้ยงแพะขุนอยู่ที่ 3-4 หมื่นบาท และยังมีรายได้ที่ได้จากการเผาถ่านไม้กระกินหลังจากที่นำกระถินมาให้แพะกิน แล้วก็จะเหลือเศษไม้นำไปเผาเป็นถ่านนั้นเอง
เมื่อ
ครบสามเดือนแล้วจำหน่ายแพะในคอกนั้นหมดจะต้องมีการทำความสะอาดคอกหรือโรง
เรือนของแพะด้วยวิธีง่ายๆ ก็คือ ลุงจวนจะใช้น้ำยาราดพื้นโรงเรือนให้ทั่ว
จากนั้นก็โรยปูนขาวให้ทั่วทิ้งไว้ประมาณ 5-7 วัน
พอครบก็สามารถนำแพะลงเลี้ยงได้เลย
และเมื่อลงแพะแล้วต้องสังเกตุว่ามีแพะป่วยหรือไม่
ถ้ามีแพะป่วยจะต้องแยกแพะตัวนั้นไว้ต่างหากเพื่อที่จะรักษาให้หายไม่แพร่
เชื้อไปยังตัวอื่น
และลุงจวนได้บอกเคล็ดลับว่าการเลี้ยงแพะขุนสังเกตุว่าแพะจะอ้วนไหมหรือกำลัง
จะอ้วนนั้นสังเกตุได้จากการที่แพะเปลี่ยนขน
ถ้าเปลี่ยนขนเมื่อไรแสดงว่าแพะตัวนั้นกำลังจะอ้วนจะกลายเป็นขนมันนั้นเอง
การ
เลี้ยงแพะขุนเกษตรกรหลายรายเห็นว่ายุ่งยาก
เรื่องอาหารแพะที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเยอะ
แต่จากประสบการณ์ของลุงจวนนั้นบอกว่ายิ้มได้เลยสำหรับอาหารแพะเ
พราะแพะที่ลุงจวนขุนอยู่ทุกวันนี้แทบจะไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายในเรื่องอาหาร
เลย
นอกจากเสียค่าน้ำมันรถมอเตอร์ไซด์ที่ขับออกไปเพื่อไปตัดต้นกระถินมาให้แพะ
กิน
เพราะต้นกระถินนั้นจะเกิดตามไหล่ทางถนนและเป็นอาหารที่อร่อยที่สุดของแพะขุน
เป็นอาหารที่ขุนแพะให้อ้วนได้อย่างดี
สำหรับการให้อาหารแพะของลุงจวนนั้นนอกจากกระถินแล้วก็จะมีหญ้าที่ขึ้นมารอบๆ
โรงเรือนก็สามารถตัดเป็นชิ้นเล็กๆให้แพะกินได้
อีกอย่างหนึ่งนั้นก็คือมันสำปะหลังตากแห้งก็สามารถนำมาเพิ่มเนื้อของแพะได้
สำหรับเวลาในการให้อาหารแพะขุนของลุงจวนนั้นจะมีสองเวลา
ในช่วงเช้าจะให้อาหารเวล 08.00 น. ส่วนช่วงเย็นนั้นจะให้เวลา 15.00-16.00
น. ต้นทุนอาหารไม่สูง โรงเรือนทำแบบง่ายๆใช้ไม่กระถินกกั้นเป็นคอก
ต้นทุนจึงถูกแค่เพียงทำความสะอาดพื้นคอกที่เป็นดินให้สะอาดก็สามารถเลี้ยง
แพะให้มีสุขภาพดีได้
0 comments:
Post a Comment